การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2) ประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จานวน 30 คน คัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลากห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น แบบประเมินคุณภาพการพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อใช้งานแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้(Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ในการศึกษา คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษามีดังนี้ 1. แอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย แอพพลิเคชั่น และหนังสือประกอบ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ 2. คุณภาพของแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นต่อความเหมาะสมของแอพพลิเคชั่นโดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.33 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.58) 3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้(Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.54 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.49)

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 2) ประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จานวน 30 คน คัดเลือกเป็นกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลากห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้น แบบประเมินคุณภาพการพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อใช้งานแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้(Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ สถิติที่ใช้ในการศึกษา คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษามีดังนี้ 1. แอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย แอพพลิเคชั่น และหนังสือประกอบ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้ 2. คุณภาพของแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้ (Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นต่อความเหมาะสมของแอพพลิเคชั่นโดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย = 4.33 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.58) 3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแอพพลิเคชั่นด้วยเทคโนโลยีออกเมนเต็ด เรียลลิตี้(Augmented Reality) เรื่องประเภทของคอมพิวเตอร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.54 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.49)

การศึกษาในครั้งมี วัตถุ ประ สงค ์ เพื่อ1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพ แอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจที่มีต่อ แอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บนระบบปฏิบัติการแอน ดรอยด์ กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวังบัวสามัคคี จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แบประเมินคุณภาพ แบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1.แอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย แอพพลิเคชั่น และความหมายของคาศัพท์ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ 2.คุณภาพของแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( X = 4.31 S.D. = 0.58) 3.ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ที่มีต่อแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.46 S.D. = 0.02)

การศึกษาในครั้งมี วัตถุ ประ สงค ์ เพื่อ1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพ แอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจที่มีต่อ แอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บนระบบปฏิบัติการแอน ดรอยด์ กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านวังบัวสามัคคี จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แบประเมินคุณภาพ แบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1.แอพพลิเคชั่นแปลภาษาวัยรุ่น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย แอพพลิเคชั่น และความหมายของคาศัพท์ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ 2.คุณภาพของแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก ( X = 4.31 S.D. = 0.58) 3.ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ที่มีต่อแอพพลิเคชั่นที่พัฒนาขึ้นโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.46 S.D. = 0.02)

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม2. เพื่อหาประสิทธิภาพของระบบการจัดการฐานข้อมูลอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม3. แบบสอบถามต่อความพึงพอใจต่อระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ผลการศึกษาพบว่า 1. ผลการพัฒนาระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ได้ค่าเฉลี่ยค่าเฉลี่ย x̅ เท่ากับ4.33 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D เท่ากับ0.71 ซึ่งแสดงผลอยู่ในระดับมาก 2. ผลการประเมินคุณภาพระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ได้ค่าเฉลี่ย x̅ เท่ากับ4.33 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D เท่ากับ0.71 ซึ่งแสดงผลอยู่ในระดับมาก 3. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม โดยรวมอยู่ในระดับ มาก (x̅=4.22,S.D.=0.19)

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพื่อพัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูลอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม2. เพื่อหาประสิทธิภาพของระบบการจัดการฐานข้อมูลอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม3. แบบสอบถามต่อความพึงพอใจต่อระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ผลการศึกษาพบว่า 1. ผลการพัฒนาระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ได้ค่าเฉลี่ยค่าเฉลี่ย x̅ เท่ากับ4.33 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D เท่ากับ0.71 ซึ่งแสดงผลอยู่ในระดับมาก 2. ผลการประเมินคุณภาพระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม ได้ค่าเฉลี่ย x̅ เท่ากับ4.33 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D เท่ากับ0.71 ซึ่งแสดงผลอยู่ในระดับมาก 3. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อระบบอาสาสมัครนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม กรณีศึกษา ศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม โดยรวมอยู่ในระดับ มาก (x̅=4.22,S.D.=0.19)

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่า มาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) เพื่อประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นการ วอร์มร่างกาย 10 ท่า มาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) เพื่อสอบถามความพึงพอใจของ ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา การออกกาลัง กายเพื่อคุณภาพชีวิต (GE) จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมิน คุณภาพ แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบสอบถามความพึงพอใจต่อ แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่า มาตรฐานบนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ประกอบด้วย เนื้อหาการเรียนรู้ และการ์ตูนแอนนิเมชั่นเคลื่อนไหว ครอบคุมเนื้อหาเรื่อง หลังส่วนล่าง, เอ็นหลังเข่า, ต้นขาด้านใน, น่อง, ต้นขา, ลาตัว, หลังส่วนบน, หน้าอก, ต้นแขน, ต้นคอ 2. ผลการประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่นวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐานบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของผู้เชี่ยวชาญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x̅ =4.44 ,S.D.=0.29) 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อแอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมนักศึกษาทุกคนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ( x̅ =4.54 ,S.D.=0.49)

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่า มาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) เพื่อประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นการ วอร์มร่างกาย 10 ท่า มาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) เพื่อสอบถามความพึงพอใจของ ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ชั้นปีที่ 1 ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา การออกกาลัง กายเพื่อคุณภาพชีวิต (GE) จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมิน คุณภาพ แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบสอบถามความพึงพอใจต่อ แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่า มาตรฐานบนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. แอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ประกอบด้วย เนื้อหาการเรียนรู้ และการ์ตูนแอนนิเมชั่นเคลื่อนไหว ครอบคุมเนื้อหาเรื่อง หลังส่วนล่าง, เอ็นหลังเข่า, ต้นขาด้านใน, น่อง, ต้นขา, ลาตัว, หลังส่วนบน, หน้าอก, ต้นแขน, ต้นคอ 2. ผลการประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่นวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐานบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของผู้เชี่ยวชาญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x̅ =4.44 ,S.D.=0.29) 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อแอพพลิเคชั่นการวอร์มร่างกาย 10 ท่ามาตรฐาน บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมนักศึกษาทุกคนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก ( x̅ =4.54 ,S.D.=0.49)

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาเครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อ เลี้ยงปลาโดยการหมุนเวียนน้าจากอีกบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่ง และวัดอุณหภูมิในน้าเพื่อสั่งให้เครื่องปั้มน้า ท้างานส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีอุณหภูมิที่สูงหรือต่้าจนเกินไป 2) เพื่อประเมินคุณภาพของเครื่องปรับ อุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพเครื่องมือ จ้านวน 3 ท่าน เพื่อประเมินคุณภาพของอุปกรที่พัฒนาขึ้น เครื่องมือในการศึกษา ได้แก่ แบบประเมินคุณภาพของ เครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา ของผู้ใช้เครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา สถิติที่ ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาค่าเฉลี่ย X ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ผลการศึกษาพบว่า 1. เครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา สามารถปรับอุณหภูมิได้โดยการหมุนเวียนน้า จากบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่งได้ สามารถวัดอุณหภูมิได้ สามารถเก็บค่าอุณหภูมิได้ สามารถส่งสัญญาณ เตือนได้ โดยการรับค่าจากอุณหภูมิสั่งงานส่วนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อความเหมาะสมของเครื่องปรับอุณหภูมิในน้า ส้าหรับบ่อเลี้ยงปลาได้แบ่งออกเป็น 5 ด้านคือ ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ,การประเมิน ด้านการท้างานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ,การประเมินด้านประสิทธิภาพการท้างานของระบบ,ด้านการ รักษาความปรอดภัยของข้อมูลในระบบ,การประเมินด้านผลลัพธ์ในการท้างานของระบบ ปรากฏว่า ผล การประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งหมดทุกด้านอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( X =4.54, S.D. = 0.60) ซึ่ง แสดงถึงการยอมรับคุณภาพการใช้งานและมีความสอดคล้องของข้อมูล

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาเครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อ เลี้ยงปลาโดยการหมุนเวียนน้าจากอีกบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่ง และวัดอุณหภูมิในน้าเพื่อสั่งให้เครื่องปั้มน้า ท้างานส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีอุณหภูมิที่สูงหรือต่้าจนเกินไป 2) เพื่อประเมินคุณภาพของเครื่องปรับ อุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพเครื่องมือ จ้านวน 3 ท่าน เพื่อประเมินคุณภาพของอุปกรที่พัฒนาขึ้น เครื่องมือในการศึกษา ได้แก่ แบบประเมินคุณภาพของ เครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา ของผู้ใช้เครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา สถิติที่ ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาค่าเฉลี่ย X ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ผลการศึกษาพบว่า 1. เครื่องปรับอุณหภูมิในน้าส้าหรับบ่อเลี้ยงปลา สามารถปรับอุณหภูมิได้โดยการหมุนเวียนน้า จากบ่อหนึ่งไปยังอีกบ่อหนึ่งได้ สามารถวัดอุณหภูมิได้ สามารถเก็บค่าอุณหภูมิได้ สามารถส่งสัญญาณ เตือนได้ โดยการรับค่าจากอุณหภูมิสั่งงานส่วนอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อความเหมาะสมของเครื่องปรับอุณหภูมิในน้า ส้าหรับบ่อเลี้ยงปลาได้แบ่งออกเป็น 5 ด้านคือ ด้านการตรงตามความต้องการของผู้ใช้ระบบ,การประเมิน ด้านการท้างานได้ตามฟังก์ชันงานของระบบ,การประเมินด้านประสิทธิภาพการท้างานของระบบ,ด้านการ รักษาความปรอดภัยของข้อมูลในระบบ,การประเมินด้านผลลัพธ์ในการท้างานของระบบ ปรากฏว่า ผล การประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งหมดทุกด้านอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด ( X =4.54, S.D. = 0.60) ซึ่ง แสดงถึงการยอมรับคุณภาพการใช้งานและมีความสอดคล้องของข้อมูล

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอน 2) ประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนสีถานดารงวิทย์ จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สถิติที่ใช้ในการศึกษาคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการศึกษามีดังนี้ 1. แอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบ่งออกเป็น 4 เรื่อง ได้แก่ ร่างกายของเรา ชีวิตและครอบครัว รู้ทันโรค และความปลอดภัยในชีวิต 2. ผลการประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในระดับมาก 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับชอบ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอน 2) ประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนสีถานดารงวิทย์ จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สถิติที่ใช้ในการศึกษาคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการศึกษามีดังนี้ 1. แอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบ่งออกเป็น 4 เรื่อง ได้แก่ ร่างกายของเรา ชีวิตและครอบครัว รู้ทันโรค และความปลอดภัยในชีวิต 2. ผลการประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในระดับมาก 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้สุขศึกษา สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับชอบ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่พัฒนาขึ้น แบบประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการใช้งาน แอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สถิติที่ใช้ในงานวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. ผลการพัฒนาแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ สามารถค้นหาคำศัพท์ได้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งนี้เนื่องมาจากแอพพลิเคชั่นเก็บ รวมคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศไว้จำนวน 100 คำ 2. ผลการประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย x̅ =4.11 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. = 0.48) 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแอพพลิเคชั่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย x̅ =4.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. = 0.66)

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่พัฒนาขึ้น แบบประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการใช้งาน แอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สถิติที่ใช้ในงานวิจัย คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. ผลการพัฒนาแอพพลิเคชั่นคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศบนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ สามารถค้นหาคำศัพท์ได้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งนี้เนื่องมาจากแอพพลิเคชั่นเก็บ รวมคำศัพท์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศไว้จำนวน 100 คำ 2. ผลการประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย x̅ =4.11 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. = 0.48) 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแอพพลิเคชั่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย x̅ =4.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D. = 0.66)

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1.) พัฒนาแอพพลิเคชั่นการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2.) ประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคุณภาพ 3.) สอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุมตัวอยาง เปนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 3 โรงเรียนบานสงเปลือย จานวน 45 คน เครื่องมือที่ใชในการศึกษา ไดแกแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบประเมินคุณภาพการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ แบบประเมินความพึงพอใจที่มีตอการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใชคือ รอยละ คาเฉลี่ย และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบวา 1. แอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบดวย 1) เมนูคาศัพท์ภาษาอังกฤษ (Vacabulary) จานวน 5 เนื้อหาการเรียนรู้ 2) แอนิเมชั่นเสริมการเรียนรู้ (Start) เรื่อง My school day จานวน 5 เนื้อหาการเรียนรู้ และ 3) ผู้จัดทา (Provider) 2. ผลการประเมินแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคุณภาพโดยรวมอยูในระดับมาก 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีตแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยูในระดับมาก

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงคเพื่อ 1.) พัฒนาแอพพลิเคชั่นการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 2.) ประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีคุณภาพ 3.) สอบถามความพึงพอใจที่มีต่อแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุมตัวอยาง เปนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปที่ 3 โรงเรียนบานสงเปลือย จานวน 45 คน เครื่องมือที่ใชในการศึกษา ไดแกแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบประเมินคุณภาพการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ แบบประเมินความพึงพอใจที่มีตอการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สถิติที่ใชคือ รอยละ คาเฉลี่ย และสวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบวา 1. แอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประกอบดวย 1) เมนูคาศัพท์ภาษาอังกฤษ (Vacabulary) จานวน 5 เนื้อหาการเรียนรู้ 2) แอนิเมชั่นเสริมการเรียนรู้ (Start) เรื่อง My school day จานวน 5 เนื้อหาการเรียนรู้ และ 3) ผู้จัดทา (Provider) 2. ผลการประเมินแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีคุณภาพโดยรวมอยูในระดับมาก 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีตแอพพลิเคชั่นเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเรื่อง my school day สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยูในระดับมาก

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้นบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารชั้นปีที่ 4 จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่น และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า 1. แอพพลิเคชั่นประกอบด้วยคาศัพท์ 3 หมวด คือ หมวดคาทักทาย หมวดช้อปปิ้ง และหมวดการเดินทาง ภายใต้การค้นหาด้วยการพิมพ์ตัวอักษรและค้นหาจากเสียงพูดโดยแสดงผลเป็นคาศัพท์ทั้ง 10 ประเทศ ในกลุ่มประชาคมอาเซียน ซึ่งสามารถฟังเสียงแต่ละคาศัพท์ได้ 2. ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อความเหมาะสมของแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษา อาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. ความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพของแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บน ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้นบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาภาษาไทยเพื่อการสื่อสารชั้นปีที่ 4 จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย แอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมินคุณภาพแอพพลิเคชั่น และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า 1. แอพพลิเคชั่นประกอบด้วยคาศัพท์ 3 หมวด คือ หมวดคาทักทาย หมวดช้อปปิ้ง และหมวดการเดินทาง ภายใต้การค้นหาด้วยการพิมพ์ตัวอักษรและค้นหาจากเสียงพูดโดยแสดงผลเป็นคาศัพท์ทั้ง 10 ประเทศ ในกลุ่มประชาคมอาเซียน ซึ่งสามารถฟังเสียงแต่ละคาศัพท์ได้ 2. ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อความเหมาะสมของแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษา อาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. ความพึงพอใจของผู้ใช้งานที่มีต่อแอพพลิเคชั่นคาศัพท์ภาษาอาเซียนเบื้องต้น บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพของเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนน้าคาใหญ่วิทยา จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมินคุณภาพเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อเกมฝึกทักษะการบวก ลบสาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. เกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ประกอบด้วย เนื้อหาการเรียนรู้ และเกมส่งเสริมการเรียนรู้ ครอบคุมเนื้อหาเรื่อง การบวกและการลบเลข 1 หลักโดยมีผลลัพธ์ไม่เกิน 20 2. ผลการประเมินเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก

การศึกษาโครงงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2) ประเมินคุณภาพของเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ 3) สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งานเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ กลุ่มตัวอย่าง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนน้าคาใหญ่วิทยา จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ แบบประเมินคุณภาพเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และแบบประเมินความพึงพอใจที่มีต่อเกมฝึกทักษะการบวก ลบสาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ สถิติที่ใช้คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. เกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ประกอบด้วย เนื้อหาการเรียนรู้ และเกมส่งเสริมการเรียนรู้ ครอบคุมเนื้อหาเรื่อง การบวกและการลบเลข 1 หลักโดยมีผลลัพธ์ไม่เกิน 20 2. ผลการประเมินเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก 3. ผลการสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเกมฝึกทักษะการบวก ลบ สาหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก